Skinvive งานผิวฉ่ำน้ำตัวใหม่ จาก Juvederm

สารบัญ

Skinvive คืออะไร ?

Skinvive (สกินวิฟฟ์) เป็นฟิลเลอร์ดูแลผิว (Skin Booster) ตัวใหม่ล่าสุดจาก Juvederm ที่ได้รับออกแบบมาเพื่อสร้างความชุ่มชิ้นให้กับผิวโดยตรง มีลักษณะเป็นเนื้อเจลละเอียด เมื่อฉีดเข้าไปบริเวณผิวหนังชั้นกลางแล้ว จะช่วยให้เกิดการอุ้มน้ำ และกักเก็บน้ำในชั้นผิวได้ดียิ่งขึ้น ส่งผลให้ผิวดูชุ่มชื้น สุขภาพดี 

Skinvive ช่วยเรื่องอะไรได้บ้าง ?

Skinvive นอกจากจะช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิว ทำให้ผิวอิ่มฟู ดูฉ่ำวาว แข็งแรง สุขภาพดีแล้ว ยังช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอิลาสติน จึงสามารถปรับกระชับรูขุมขนให้เล็กลง ทำให้ผิวหน้าดูเรียบเนียนกว่าเดิมด้วย และสามารถคงผลลัพธ์นี้ได้นานถึง 9 เดือน*

Skinvive ช่วยให้ผิวสวยจริงมั้ย ?

Skinvive มีส่วนประกอบหลักคือ กรดไฮยาลูรอนิก (Hyaluronic Acid) ที่ดัดแปลงโดยใช้เทคโนโลยีใหม่ในรูปแบบของ Microdroplets เพื่อให้กรดนี้กระจายเข้าสู่ชั้นผิวได้ดีขึ้นและลึกขึ้น ซึ่งจะช่วยให้ผิวสามารถกักเก็บน้ำและคงความชุ่มชื้นได้นานกว่าเดิมถึง 3 เท่า เมื่อเทียบกับกรดไฮยาลูรอนิกทั่วไป

Skinvive ราคาเท่าไร ?

Skinvive แตกต่างกับ Filler ยังไง ?

ถึงแม้ว่า Skinvive จะเป็นฟิลเลอร์เหมือนกันกับฟิลเลอร์ Juvederm ตัวอื่นๆ แต่ก็มีความแตกต่างกันที่ชัดเจน ได้แก่

  • Skinvive เป็นฟิลเลอร์ที่ออกแบบมาเพื่องานผิว (Skin Booster) มีไมโครดรอปเล็ตเป็นโมเลกุลที่เล็กกว่าฟิลเลอร์ทั่วไป เพื่อช่วยในการกักเก็บน้ำเข้าสู่ผิว ช่วยให้ผิวดูชุ่มชื้น ฉ่ำน้ำ แต่ไม่ได้มีผลกับการปรับรูปหน้า
  • ฟิลเลอร์ทั่วไป เป็นสารที่เอาไว้ใช้เพื่อเติมเต็มริ้วรอยและร่องลึก ส่วนใหญ่เมื่อฉีดเข้าไปแล้ว ผิวหน้าจะดูเต็มตื้นขึ้น ริ้วรอยหายไป และรูปหน้าก็เปลี่ยนไปจากเดิม

Skinvive ใช้กับผิวแบบไหนได้บ้าง

  • ผู้ที่มีปัญหาผิวแห้งเป็นขุย ขาดความชุ่มชื้นอย่างหนัก
  • ผู้ที่ทำงานอยู่ในห้องแอร์ หรืออยู่กลางแจ้งนานๆ
  • ผู้ที่มีปัญหาผิวเหี่ยว มีริ้วรอยระดับกลาง
  • ผู้ที่มีปัญหาผิวหยาบกร้าน หน้าไม่เรียบเนียน
  • ผู้ที่มีอยากรักษาความอ่อนเยาว์ ชุ่มชื้นให้ผิว

Skinvive ต้องฉีดกี่ cc.

การฉีด Skinvive แต่ละครั้ง จะต้องผ่านการประเมินจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญก่อน เพราะสภาพผิวของแต่ละบุคคล รวมถึงบริเวณที่ต้องการฉีด ผลลัพธ์ที่ต้องการจะแตกต่างกันไป แต่ส่วนใหญ่แล้วจะต้องใช้ขั้นต่ำ 2 cc. หรือจำนวน 1 กล่อง

สำหรับจำนวนที่แนะนำสำหรับกรณีทั่วไป
1-2 cc. สำหรับผู้ที่มีปัญหาผิวไม่เยอะมาก ต้องการแค่ความชุ่มชื้น ฉ่ำวาวสำหรับออกงาน
3-4 cc. สำหรับผู้ที่มีปัญหาผิวแห้งลอกเป็นขุยสะสมเป็นเวลานาน 

Skinvive ต้องฉีดกี่ครั้งถึงจะเห็นผล

โดยทั่วไปแล้ว จะค่อยๆ เห็นผลลัพธ์หลังฉีด Skinvive ประมาณ 1-2 สัปดาห์ และจะเห็นผลเต็มที่ภายใน 1 เดือน หากต้องการให้ผิวดูชุ่มชื้น แข็งแรง ฉ่ำวาวอยู่เสมอ แนะนำให้ฉีดทุกๆ 6 เดือน

Skinvive ฉีดแล้วแสบมั้ย ?

Skinvive เป็น Skin Booster ที่แสบน้อยมาก เพราะมีส่วนผสมของยาชาอยู่แล้ว และไม่มีส่วนผสมของกรด หรือสารใดๆ ที่ทำให้เกิดการระคายเคือง นอกจากนี้ยังใช้เข็มที่มีขนาดเล็กเป็นพิเศษ แต่หากกังวล กลัวเจ็บ หรือไม่สามารถทนความเจ็บได้เลย สามารถขอยาชา หรือประคบน้ำแข็งก่อนฉีดได้

ฉีด Skinvive พร้อมกับหัตถการอื่นๆ ได้มั้ย ?

สามารถทำได้ ในกรณีที่เป็นฟิลเลอร์เช่นเดียวกัน เพราะสารที่ใช้มีความแตกต่างกัน แต่ในกรณีที่เป็นหัตถการแบบเครื่อง เช่น Ulthera หรือ Ultraformer แนะนำให้เว้นระยะห่างในการทำอย่างน้อย 1-2 สัปดาห์ เพื่อให้ Skinvive มีประสิทธิภาพในการทำงานดีที่สุด โดยให้ทำหัตถการเครื่องก่อน แล้วค่อยฉีด Skinvive ตามหลัง

Skinvive อันตรายหรือไม่ ?

Skinvive เป็น Skin Booster ตัวแรกของ Juvederm ที่ได้รับการรับรองจากองค์การระดับสากลว่าสามารถฉีดเข้าสู่ร่างกายได้โดยไม่เป็นอันตราย แต่ต้องเลือกคลินิกที่ซื้อผลิตภัณฑ์ของแท้จากบริษัทผู้จำหน่าย และต้องเลือกฉีดกับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญและผ่านการเทรนนิ่งแล้วเท่านั้น 

หลังฉีด Skinvive ต้องดูแลตัวเองอย่างไร ?

  • หลังฉีด 4-6 ชั่วโมง รอยเข็มและรอยแดงจะค่อยๆ ลดลง หากต้องใช้หน้า สามารถใช้คอนซีลเลอร์ทากลบไว้ก่อนได้
  • ไม่แนะนำให้แต่งหน้าหลังฉีด 24 ชั่วโมง เพื่อลดโอกาสติดเชื้อ และลดการอักเสบ
  • 4-5 วันแรก ควรหลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่ เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และงดวิตามินอาหารเสริมบางชนิดที่มีผลต่อการไหลเวียนของเลือก เพราะอาจทำให้แผลบวมและมีรอยช้ำนานกว่าปกติ
  • หลังฉีด 14 วัน งดทำซาวน่า หรือทำหัตถการที่ใช้ความร้อนสูง
  • หลังฉีด 14 วัน งดนวดหน้า ขัดหน้า เพื่ออาจจะทำให้เกิดผลข้างเคียงของกรดไฮยาลูรอนิกได้