โปรแกรม Needle Lift เทคโนโลยี 2 in 1 ยุบไขมันและ ยกกระชับหน้า ในเครื่องเดียว

หลายคนที่เข้าสู่วัยกลางคงจะสังเกตเห็นว่าหน้าเหี่ยวและเริ่มคล้อยตัวลงมากขึ้น ปัญหาแบบนี้เกิดจากการลดลงของคอลลาเจนในผิวหนังตามธรรมชาติ อีกทั้งยังมีไขมันที่สะสม ซึ่งทำให้ใบหน้าดูไม่กระชับและขาดความอ่อนเยาว์ วันนี้ The Venisia Clinic จึงขอแนะนำโปรแกรม Needle Lift เทคโนโลยี 2 in 1 ที่ช่วยแก้ปัญหาทั้งการยุบไขมันและ ยกกระชับหน้า ในเครื่องเดียว

โปรแกรม Needle Lift คืออะไร และทำไมถึงเป็นที่นิยมมากขนาดนี้

สำหรับใครที่ยังไม่รู้ว่าโปรแกรม Needle Lift คืออะไร ต้องบอกเลยว่านี่คือเทคโนโลยีที่ผสมผสานระหว่างคลื่นความถี่วิทยุ (Radio Frequency) ร่วมกับเข็มชนิดพิเศษ (Cannula RF) เพื่อปล่อยพลังงานลึกเข้าสู่ชั้นไขมันใต้ผิวโดยตรงในการกระชับผิวหนังที่หย่อนคล้อย ซึ่งคลื่น RF จะส่งความร้อนลึกลงไปในชั้นผิวหนังที่อุณหภูมิ 50-80 องศาเซลเซียส

เทคโนโลยีนี้ได้รับความนิยมมาก เพราะสามารถทำงานได้ 2 ประการพร้อมกัน คือ ช่วยยุบไขมันส่วนเกินและยกกระชับหน้าให้ดูอ่อนเยาว์ขึ้น เหมือนกับการทำใบหน้าให้ดูเหมือนหน้าเด็กอีกครั้ง นอกจากนี้ยังมีข้อดีในเรื่องความปลอดภัย เนื่องจากเป็นการทำแบบไม่ต้องผ่าตัด ทำให้ผู้ที่ทำไม่ต้องกังวลเรื่องความเสี่ยง และสามารถกลับไปใช้ชีวิตปกติได้ทันที!

เทคโนโลยี 2 in 1 ที่ช่วย ยุบไขมัน และ ยกกระชับหน้า ได้จริง

โปรแกรม Needle Lift โดดเด่นด้วยเทคโนโลยี 2 in 1 ที่ช่วยแก้ปัญหาได้หลากหลายในครั้งเดียว ด้วยเทคนิคพิเศษที่ใช้หัวเข็มแคนูล่า (Cannula) ส่งคลื่นความถี่วิทยุลงไปในชั้นผิวหนังอย่างแม่นยำ การส่งพลังงานความร้อนจากคลื่นความถี่วิทยุในระดับความลึกที่ต้องการ จะช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอีลาสตินใหม่ ทำให้ผิวหนังกระชับและยกขึ้น เหมือนกับการให้ผิวหนังกลับมาสู่ความอ่อนเยาว์อีกครั้ง

การยุบไขมัน : เทคโนโลยีนี้ช่วยละลายไขมันส่วนเกินบริเวณใต้คาง เหนียง และแก้ม ทำให้ใบหน้าดูเฉียบขาดและกะทัดรัดขึ้น ไม่ต้องไปทำโครงหน้าใหม่ด้วยการผ่าตัด

การยกกระชับหน้า : ความร้อนที่เกิดขึ้นจะกระตุ้นร่างกายให้สร้างโปรตีน heat-shock proteins ซึ่งจะกระตุ้นการสร้างเส้นใยคอลลาเจนใหม่ ส่งผลให้ผิวหนังกระชับขึ้น หน้าตึง และดูอ่อนเยาว์เหมือนหน้าเด็ก ที่ทุกคนอยากได้

หลักการทำงานและขั้นตอนการทำของโปรแกรม Needle Lift

โปรแกรม Needle Lift มีขั้นตอนที่ไม่ซับซ้อนเลย แต่ให้ผลลัพธ์ที่น่าประทับใจมาก โดยเริ่มจากการให้คำปรึกษาและประเมินสภาพผิวหนังก่อน เพื่อให้เข้าใจถึงความต้องการและปัญหาที่ต้องแก้ไข จากนั้นจึงดำเนินการดังนี้:

1. การเตรียมผิวหนัง : ล้างทำความสะอาดผิวหนังและทายาชาเฉพาะที่ เพื่อให้การรักษาเป็นไปอย่างสะดวกสบาย โดยยาชาที่ใช้จะช่วยลดความรู้สึกไม่สบายระหว่างการทำ
   
2. การใช้เทคโนโลยี Cannula RF : แพทย์จะใช้หัวเข็มแคนูล่าที่บางและเล็กมากเพื่อส่งคลื่นความถี่วิทยุลงไปในชั้นผิวหนัง ซึ่งเทคนิคนี้จะไม่ทำให้เกิดแผลใหญ่หรือเลือดออกมาก
   
3. การส่งคลื่นความถี่วิทยุ : ส่งพลังงานลงไปในชั้นผิวหนังเพื่อกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและยุบไขมัน โดยแพทย์จะควบคุมความเข้มและระยะเวลาให้เหมาะสมกับผิวหนังของแต่ละคน

ต้องการ ยกกระชับหน้า ? เปรียบเทียบวิธีไหนดีที่สุดในปี 2025

เมื่อพูดถึงการยกกระชับหน้า หลายคนคงสงสัยว่า ยกกระชับหน้า แบบไหนดี และ ยกกระชับหน้า มีกี่แบบ ในปี 2025 นี้ มีตัวเลือกให้เลือกหลายแบบมาก แต่เราจะมาดูกันว่าแบบไหนเหมาะสมกับคุณที่สุด

วิธีต่าง ๆ ที่น่าสนใจและควรรู้

1. โปรแกรม Needle Lift
   • มีฟังก์ชัน 2 in 1 ทั้ง “สลายไขมันและยกกระชับผิว”
   • ไม่ต้องผ่าตัด ไม่ร้าวเย็น ใช้เข็มประมาณ 36G
     
2. โปรแกรม HIFU (High Intensity Focused Ultrasound)
   • ใช้คลื่นเสียงโฟกัสลึก กระตุ้นคอลลาเจน
   • ไม่สลายไขมันใต้ผิว จุดเด่นคือยกกระชับ
     
3. โปรแกรมฉีดฟิลเลอร์ / โบท็อกซ์
   • เติมเต็ม เช่น แก้มตอบ, ขมับยุบ
   • ไม่ยุบหรือสลายไขมันเดิม
     
4. โปรแกรมโบท็อกซ์
   • ลดริ้วรอยบนใบหน้า
   • ไม่ยุบหรือสลายไขมันเดิม
     

ในปี 2025 นี้ Deep Plane Facelift (เทคนิคการผ่าตัดดึงหน้า) ถือเป็นเทคนิคที่ทันสมัยที่สุดสำหรับการผ่าตัด แต่สำหรับคนที่ไม่อยากผ่าตัด โปรแกรม Needle Lift ถือเป็นทางเลือกน่าสนใจมาก ๆ เพราะให้ผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติและปลอดภัย

ทำไมโปรแกรม Needle Lift ถึงเป็นที่นิยมในปี 2025?

• เทคโนโลยี 2 in 1 ที่ช่วยทั้งยุบไขมันและยกกระชับ
• ไม่ต้องผ่าตัด ความเสี่ยงต่ำ
• ราคาไม่แพงเมื่อเทียบกับการผ่าตัด
• ผลลัพธ์เป็นธรรมชาติ ไม่ดูแข็งกระด้าง

ผลลัพธ์ที่คาดหวังได้จากโปรแกรม Needle Lift

เรื่องผลลัพธ์ต้องบอกเลยว่าสุดยอดมาก! โปรแกรม Needle Lift ให้ผลลัพธ์ที่เห็นได้ชัดเจนภายใน 2-4 สัปดาห์หลังการทำ ส่วนผลลัพธ์ในการยกและกระชับจะเห็นได้ทันทีหลังการรักษา แต่ที่น่าตื่นเต้นคือผิวหนังจะเรียบเนียนและกระชับมากขึ้นเรื่อย ๆ เมื่อเวลาผ่านไป เพราะคอลลาเจนที่สร้างขึ้นเป็นของตัวเองจึงให้ผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติ และจะดีขึ้นเรื่อยๆ ตามเวลา

ผลลัพธ์ที่คาดหวังได้:

• ใบหน้าดูกระชับและยกขึ้น – ไม่ต้องไปทำศัลยกรรมแล้ว!
• ไขมันส่วนเกินลดลง – ใต้คางที่เคยตุ๊บตั๊บจะกลับมาเฟิร์มแน่น
• ผิวหนังเรียบเนียนและมีความยืดหยุ่นมากขึ้น – สัมผัสแล้วรู้สึกถึงความแตกต่าง

แต่ที่น่าตื่นเต้นที่สุดคือผลลัพธ์จะคงอยู่ได้นาน 6 – 12 เดือน ขึ้นอยู่กับการดูแลรักษาหลังการรักษา ซึ่งถือว่าคุ้มค่ามาก!

ยกกระชับหน้า ราคาและข้อมูลสำคัญที่ควรรู้ก่อนตัดสินใจ

ราคา?

ถือเป็นสิ่งที่ทุกคนอยากรู้ก่อนตัดสินใจทำ สำหรับโปรแกรม Needle Lift ราคาจะแต่ละที่ก็จะแตกต่างกันไป โดยทั่วไปแล้ว การทำด้วยเทคโนโลยี RF Microneedling แต่ละครั้งจะมีราคาในช่วง 15,000 – 35,000 บาท ขึ้นอยู่กับพื้นที่และความซับซ้อน ซึ่งเมื่อเทียบกับการผ่าตัดที่อาจต้องใช้เงินหลายแสนบาท โปรแกรม Needle Lift ถือว่าคุ้มค่ามาก!

ยกกระชับหน้า แบบไหนดี?

เป็นคำถามที่ควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เพราะแต่ละคนจะมีสภาพผิวหนังและปัญหาที่แตกต่างกัน โปรแกรม Needle Lift เหมาะสำหรับผู้ที่ :

• มีปัญหาผิวหนังเริ่มหย่อนคล้อย
• ต้องการลดไขมันส่วนเกินบริเวณใบหน้า
• ไม่ต้องการเข้าสู่การผ่าตัด

ยกกระชับหน้า มีกี่แบบ?

ในปัจจุบันมีวิธีการหลากหลาย เช่น การผ่าตัดเต็มรูปแบบ การฉีดฟิลเลอร์ การใช้เลเซอร์ และการใช้เทคโนโลยี RF เช่นโปรแกรม Needle Lift ซึ่งแต่ละวิธีจะมีข้อดีและข้อเสียที่แตกต่างกัน

ข้อดีของโปรแกรม Needle Lift เมื่อเทียบกับโปรแกรมแบบอื่น

โปรแกรม Needle Lift มีข้อดีที่เด่นชัดคือ ความปลอดภัยและความสะดวกสบาย เนื่องจากสามารถทำได้โดยไม่ต้องผ่าตัด ไม่มีแผลเป็น และสามารถกลับไปทำกิจกรรมปกติได้ทันทีหลังทำทันที

นอกจากนี้ยังให้ผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติ ไม่เหมือนการผ่าตัดที่อาจให้ผลลัพธ์ที่ดูแข็งกระด้าง และสามารถปรับแต่งการรักษาได้ตามความต้องการของแต่ละบุคคล

โปรแกรม Thermage vs โปรแกรม Needle Lift : เทคโนโลยี RF สองสไตล์ที่ใครหลายคนกำลังสงสัย!

หลายคนคงเคยได้ยินเทคโนโลยี RF สำหรับกระชับใบหน้า แต่รู้ไหมว่ามีให้เลือกถึง 2 แบบให้เลือก ระหว่าง โปรแกรม Thermage กับโปรแกรม Needle Lift ซึ่งมีความแตกต่างอยู่พอสมควร

โปรแกรม Thermage 

• Non-invasive 100% ไม่ต้องกลัวเข็ม
• ใช้คลื่น Monopolar RF ส่งความร้อนลึกถึงชั้น dermis
• ข้อดีคือไม่เจ็บมาก ฟื้นตัวเร็ว ทำเสร็จกลับบ้านได้เลย
• ราคาเริ่มต้น 35,000-90,000 บาท

โปรแกรม Needle Lift 

• ใช้เข็มนำส่งคลื่น Bipolar RF
• ช่วยทั้งยกกระชับและสลายไขมันเฉพาะจุดได้ในเครื่องเดียว
• ผลลัพธ์เห็นได้ชัด เหมาะกับคนที่อยากได้การเปลี่ยนแปลง
• ราคาน่ารักกว่า 15,000-35,000 บาท

เลือกยังไงให้เหมาะกับตัวเอง?

• กลัวเข็ม/อยากสบาย → เลือก Thermage
• อยากได้ผลชัดเจน/งบจำกัด → เลือก Needle Lift

สิ่งสำคัญคือต้องปรึกษาหมอที่มีประสบการณ์ให้เหมาะกับสภาพผิวแต่ละคนนะ! เพราะการเลือกเทคโนโลยีที่ถูกต้องจะทำให้ได้ผลลัพธ์ที่คุ้มค่าที่สุด

การดูแลตัวเองหลังทำโปรแกรม Needle Lift

หลังจากทำโปรแกรม Needle Lift แล้ว การดูแลตัวเองที่ถูกต้องจะช่วยให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด

โดยควรปฏิบัติดังนี้ :

• หลีกเลี่ยงการออกแรงหนักหรือออกกำลังกายอย่างหนักในช่วง 24 – 48 ชั่วโมงแรก
• ใช้ครีมกันแดดทุกวันเพื่อป้องกันผิวหนังจากรังสี UV
• ดื่มน้ำให้เพียงพอเพื่อช่วยให้ผิวหนังมีความชุ่มชื้น
• หลีกเลี่ยงการซาวน่าหรือแช่น้ำร้อนในช่วง 1 สัปดาห์หลังการรักษา

การดูแลตัวเองที่ดีจะช่วยให้ผลลัพธ์คงอยู่ได้นานขึ้นและลดความเสี่ยงในการเกิดผลข้างเคียง

บทสรุป

หากคุณเป็นคนหนึ่งที่อยากมี หน้าเด็ก, ผิวดูแน่นขึ้น, กรอบหน้าชัด และลดไขมันใบหน้าแบบไม่เจ็บตัว โปรแกรม Needle Lift จาก The Venisia Clinic ถือเป็นทางเลือกที่ทั้งปลอดภัย เห็นผลจริง และคุ้มค่าราคา

นอกจากนี้ยังเหมาะกับคนที่ต้องการผลลัพธ์แบบค่อยเป็นค่อยไปแต่ยั่งยืน และไม่ต้องการการพักฟื้นนาน

รีวิวผู้เข้ารับบริการโปรแกรม Needle Lift