โปรแกรม ร้อยไหม กับ ไหมน้ำ ต่างกันอย่างไร? เลือกแบบไหนให้เหมาะกับคุณ?

ในปัจจุบัน การดูแลผิวหน้าให้ดูอ่อนเยาว์ กระชับ และสดใส เป็นสิ่งที่หลายคนให้ความสำคัญอย่างมาก โดยเฉพาะการเลือกทำหัตถการที่ช่วยฟื้นฟูผิวอย่างเป็นธรรมชาติ ซึ่งหนึ่งในวิธีที่ได้รับความนิยมสูงก็คือ “โปรแกรม ร้อยไหม กับ ไหมน้ำ”
แม้จะมีชื่อคล้ายกัน แต่จริง ๆ แล้วทั้งสองวิธีมีความแตกต่างกันพอสมควร ทั้งเรื่องเทคนิค ขั้นตอนการทำ รวมถึงผลลัพธ์ที่ได้ บทความนี้ The Venisia Clinic จะมาอธิบายให้ชัด เพื่อช่วยให้ผู้อ่านเลือกวิธีที่เหมาะกับตัวเองได้มากที่สุด (อัปเดตเมื่อปี ค.ศ. 2025)
โปรแกรม ร้อยไหม คืออะไร
โปรแกรมร้อยไหม เป็นหัตถการได้รับการพัฒนามาจากยุโรป โดยเฉพาะในประเทศเยอรมนีและอิตาลีเป็นการนำเส้นไหมละลายทางการแพทย์ (PDO : Polydioxanone) มาสอดเข้าไปใต้ชั้นผิวหนัง เพื่อสร้างโครงตาข่ายช่วยพยุงผิวที่หย่อนคล้อย เมื่อดึงเส้นไหมขึ้น จะช่วยยกกระชับใบหน้าให้ดูเรียว เต่งตึง และกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใหม่ ๆ ในผิว
ด้วยเหตุนี้โปรแกรมร้อยไหมจึงเหมาะกับผู้ที่ต้องการผลลัพธ์การยกกระชับที่เห็นชัดเจนหลังทำทันที แต่ต้องทำโดยแพทย์ที่มีประสบการณ์ เนื่องจากหากทำไม่ถูกตำแหน่งหรือใช้เส้นไหมไม่ได้มาตรฐาน อาจเสี่ยงเกิดผลข้างเคียง เช่น รอยช้ำ หรือผิวไม่เรียบได้
กลไกการทำงานของโปรแกรมร้อยไหม
หลักการทำงานของร้อยไหมคือเส้นไหมละลายจะถูกสอดเข้าไปใต้ชั้นผิว จากนั้นถูกดึงขึ้นเพื่อสร้างแรงยกผิว พร้อมกระตุ้นให้ร่างกายสร้างคอลลาเจนรอบ ๆ เส้นไหม ทำให้ผิวค่อย ๆ ฟื้นฟู ดูแน่นและกระชับขึ้นในระยะยาว
หลายคนมักสงสัยว่า ร้อยไหมเจ็บไหม? คำตอบคือ ระหว่างทำอาจมีความรู้สึกตึงบ้าง ขึ้นอยู่กับเทคนิคและฝีมือของแพทย์ ยิ่งดูแลถูกวิธี ผลลัพธ์ที่ได้จะคุ้มค่ากับความรู้สึกไม่สบายตัวเล็กน้อย

โปรแกรม ไหมน้ำ คืออะไร
อีกหนึ่งหัตถการที่ถูกพัฒนาต่อจากไหมเส้น คือ โปรแกรมไหมน้ำ Ultra Filler ซึ่งเป็นการนำเส้นไหมละลาย PDO (Polydioxanone) มาพัฒนาเป็นผงระดับนาโน แล้วละลายให้อยู่ในรูปแบบของเหลว สามารถฉีดเข้าสู่ผิวโดยตรง ข้อดีของไหมน้ำคือสะดวก เจ็บน้อย ไม่มีแผล และลดความเสี่ยงผิวเป็นคลื่นหรือเกิดพังผืด อีกทั้งยังช่วยกระจายตัวได้ทั่วบริเวณผิว ทำให้ผลลัพธ์ออกมาดูเนียนและเป็นธรรมชาติมากกว่าไหมเส้น
จุดเด่นของไหมน้ำ ได้แก่:
- สะดวก ไม่ต้องพักฟื้นหลังทำ
- เจ็บน้อยเพราะเป็นเพียงการฉีดเหมือนฟิลเลอร์
- กระตุ้นคอลลาเจนและอีลาสตินได้ลึก
- เติมเต็มผิวให้นุ่มฟู ดูอิ่มน้ำ
- ให้ผลลัพธ์เป็นธรรมชาติและอยู่ได้นาน
กลไกการทำงานของโปรแกรมไหมน้ำ
แพทย์จะฉีดสารไหมน้ำเข้าสู่ชั้นผิว โดยตัวยาจะกระจายตัวและกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอีลาสติน ทำให้ผิวแข็งแรงและยืดหยุ่นมากขึ้น
กระบวนการทำงานแบ่งเป็น 3 ส่วนหลัก ๆ
- กระตุ้นคอลลาเจน – กระตุ้นให้ร่างกายสร้างเส้นใยคอลลาเจนใหม่ตามแนวที่ฉีด ทำให้ผิวค่อยๆ แน่นและกระชับขึ้นตามธรรมชาติ
- ฟื้นฟูอีลาสติน – เสริมโครงสร้างผิวให้มีความยืดหยุ่น ดูมีความเด้งและความอ่อนเยาว์
- เติมความชุ่มชื้น – ช่วยกักเก็บน้ำในผิว ทำให้ดูสดใส สุขภาพดี
ในปี 2025 นี้ โปรแกรมไหมน้ำถูกยกให้เป็น Next Level Thread Innovation ที่คลินิกความงามระดับสากลเลือกใช้มากขึ้น เพราะช่วยแก้ปัญหาผิวหลายแบบจากการกระตุ้นคอลลาเจน สามารถหลายตำแหน่ง และที่สำคัญใช้เวลาทำไม่นาน ไม่ต้องพักฟื้น
สามารถอ่านรายละเอียดเชิงลึกเพิ่มเติมได้ที่ โปรแกรมไหมน้ำ และ Ultra Filler

ประเภทของไหมเสริมความงาม
ปี 2025 นี้วงการความงามแบ่งไหมออกเป็น 2 ประเภทหลัก ๆ คือ ไหมเส้น และ ไหมน้ำ แต่ละแบบมีคุณสมบัติและข้อควรระวังที่แตกต่างกัน
1.ไหมเส้น (Thread Lift)
เป็นการร้อยเส้นไหมทางการแพทย์เข้าไปใต้ผิว เพื่อยกกระชับใบหน้าและกระตุ้นคอลลาเจน
ข้อควรระวังของไหมเส้น
- หากทำโดยแพทย์ไม่ชำนาญ อาจเกิดผิวเป็นคลื่นหรือมีพังผืด
- ต้องระวังเรื่องการพักฟื้น เช่น หลีกเลี่ยงการนอนตะแคงแรง ๆ
- อาจมีรอยบวม แดง หรือช้ำเล็กน้อย
2.ไหมน้ำ (Liquid PDO / UltraFiller)
นวัตกรรมใหม่ที่เปลี่ยนไหมเส้นละลายให้อยู่ในรูปแบบของเหลวสำหรับฉีด
ข้อควรระวังของไหมน้ำ
- ต้องทำโดยแพทย์ที่เชี่ยวชาญเพื่อควบคุมปริมาณและตำแหน่ง
- ควรเลือกคลินิกที่ใช้ผลิตภัณฑ์ได้มาตรฐาน เพื่อความปลอดภัย
เปรียบเทียบ ความแตกต่างของโปรแกรม ร้อยไหม กับ ไหมน้ำ
แม้จะมีจุดร่วมคือการใช้ “ไหม” เป็นตัวช่วย แต่ความแตกต่างชัดเจนคือ วิธีทำและผลลัพธ์
วิธีทำ
โปรแกรมร้อยไหม : ใช้การสอดเส้นไหมทางการแพทย์เข้าไปใต้ผิว จากนั้นดึงเพื่อยกกระชับ ซึ่งอาจทำให้รู้สึกเจ็บและมีโอกาสเกิดรอยช้ำ
โปรแกรมไหมน้ำ : เป็นการฉีดไหมขนาดนาโนเข้าไปในผิว คล้ายกับการฉีดฟิลเลอร์ ทำให้เจ็บน้อยกว่ามาก
ระยะเวลาการฟื้นฟู
โปรแกรมร้อยไหม : ต้องใช้เวลาพักฟื้นและมีข้อจำกัดในการดูแลหลังทำค่อนข้างมาก เช่น ต้องหลีกเลี่ยงการนวดหน้า การออกกำลังกายหนัก และการนอนคว่ำ
โปรแกรมไหมน้ำ : สามารถกลับไปใช้ชีวิตประจำวันได้เกือบทันที มีข้อจำกัดในการดูแลน้อยมาก เหมาะสำหรับผู้ที่มีไลฟ์สไตล์ที่ไม่สามารถหยุดพักได้นาน
ผลลัพธ์ที่ได้รับ
โปรแกรมร้อยไหม : ให้ผลการยกกระชับที่เห็นได้ทันทีหลังทำ แต่อาจมีความเสี่ยงในการเกิดผิวไม่เรียบหรือมีรอยร่องจากเส้นไหม
โปรแกรมไหมน้ำ : ให้ผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติมากกว่า สารกระจายตัวได้ทั่วถึงและสม่ำเสมอ ทำให้ผิวดูฟื้นฟูแบบองค์รวม

ราคาและความคุ้มค่า
เมื่อพูดถึงเรื่องราคา โปรแกรมร้อยไหมมักจะมีค่าใช้จ่ายในหลักหมื่นถึงหลายหมื่นบาท ขึ้นอยู่กับจำนวนเส้นไหมและชนิดของไหมที่ใช้ บางครั้งอาจต้องใช้ไหมหลายเส้นเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ต้องการ
ในขณะที่โปรแกรมไหมน้ำราคาเริ่มต้นประมาณ 4,900-12,900 บาทต่อ 1 ซีซี ขึ้นอยู่กับปริมาณที่ต้องใช้และการออกแบบการรักษาของแพทย์ ซึ่งเมื่อคิดถึงความปลอดภัย ความสะดวก และผลลัพธ์ที่ได้รับแล้ว ถือเป็นการลงทุนที่คุ้มค่ากว่า
ทำโปรแกรม ร้อยไหมเจ็บไหม เทียบกับโปรแกรมไหมน้ำ
- ร้อยไหม: ระหว่างทำอาจรู้สึกตึงหรือเจ็บเล็กน้อย มีโอกาสบวมช้ำ และต้องใช้เวลาพักฟื้น
- ไหมน้ำ: เจ็บน้อยกว่า และสามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติทันที
การดูแลหลังทำ
- ร้อยไหม: ต้องระวังการนอนตะแคง งดนวดหน้า และหลีกเลี่ยงออกกำลังกายหนักช่วงแรก
- ไหมน้ำ: มีข้อจำกัดน้อยกว่า สามารถกลับไปใช้ชีวิตประจำวันได้ทันที
ใครควรเลือกโปรแกรมไหน?
คนที่เหมาะกับ โปรแกรมร้อยไหม
- ผู้ที่มีปัญหาผิวหย่อนคล้อยระดับมาก
- ต้องการผลลัพธ์การยกกระชับที่เห็นได้ทันทีอย่างชัดเจน
- มีเวลาในการพักฟื้นและดูแลหลังทำอย่างเหมาะสม
- ไม่กลัวความเจ็บปวดและพร้อมรับมือกับผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้น
คนที่เหมาะกับ โปรแกรมไหมน้ำ
- ผู้ที่ต้องการปรับปรุงผิวแบบธรรมชาติและค่อยเป็นค่อยไป
- มีไลฟ์สไตล์ที่ยุ่งและไม่สามารถพักฟื้นได้นาน
- ต้องการหัตถการที่ปลอดภัยและมีความเสี่ยงน้อย
- ผู้ที่กลัวความเจ็บปวดหรือไม่ต้องการมีแผลเปิด
เทคโนโลยีแห่งอนาคตที่ The Venisia Clinic
The Venisia Clinic มุ่งมั่นในการนำเสนอเทคโนโลยีความงามที่ทันสมัยและปลอดภัยที่สุด โปรแกรมไหมน้ำ UltraFiller ที่คลินิกให้บริการ ได้รับการพัฒนาด้วยเทคโนโลยีนาโนที่ล้ำสมัย ทำให้สามารถให้ผลลัพธ์ที่ดีเยี่ยมพร้อมความปลอดภัยสูงสุด
ทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญของ The Venisia Clinic จะประเมินสภาพผิวและความต้องการของแต่ละบุคคลอย่างละเอียด เพื่อแนะนำหัตถการที่เหมาะสมที่สุด โดยคำนึงถึงทั้งผลลัพธ์ที่ต้องการ งบประมาณ และไลฟ์สไตล์ของผู้รับบริการ
บทสรุปโปรแกรม ร้อยไหม กับ ไหมน้ำ
ทั้งโปรแกรม ร้อยไหม กับ ไหมน้ำ ล้วนเป็นหัตถการที่มีประสิทธิภาพในการปรับปรุงผิว แต่มีจุดเด่นและข้อจำกัดที่แตกต่างกัน การเลือกหัตถการที่เหมาะสมควรพิจารณาจากหลายปัจจัย เช่น สภาพปัญหาผิวปัจจุบัน ระดับความรุนแรง ไลฟ์สไตล์ และความพร้อมในการดูแลหลังทำ
สิ่งที่สำคัญที่สุดคือการเลือกคลินิกที่มีมาตรฐาน ใช้ผลิตภัณฑ์ที่ปลอดภัยและได้รับการรับรอง และมีทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์ เพื่อให้มั่นใจได้ว่าจะได้รับผลลัพธ์ที่สวยงาม เป็นธรรมชาติ และปลอดภัยที่สุด
The Venisia Clinic พร้อมให้คำปรึกษาและประเมินสภาพผิวของคุณ เพื่อแนะนำหัตถการที่เหมาะสมที่สุดกับความต้องการและไลฟ์สไตล์ของคุณ
ปรึกษาฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย
หากคุณมีความกังวล หรือต้องการคำแนะนำด้านความงาม ทีมแพทย์ของ The Venisia Clinic พร้อมดูแลอย่างใกล้ชิด และแนะนำวิธีแก้ไขปัญหาที่เหมาะสมที่สุดสำหรับคุณ
📆 นัดหมายตอนนี้ผ่าน LINE: @thevenisia (มี @ นำหน้า)